วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บันทึกเส้นทางสู่หมู่บ้านห้วยตาด



การเดินทางสู่วังค้าง ณ วัดถ้ำผายา หมู่บ้านห้วยตาด ตำบลนาดอกคำ อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย เริ่มต้นที่ถนนสาย 2138 ไปจนถึงทางแยกบ้านไร่ทาม โดยระยะทางประมาณ 8 กม. ซึ่งถนนสายดังกล่าวสามารถเดินทางไปสู่ อำเภอนาด้วง (ระยะทางประมาณ 34 กม.) อำเภอนาวัง (ระยะทางประมาณ 58 กม.) หรืออำเภอเชียงคาน (ระยะทางประมาณ 72 กม.) และอำเภอปากชม (ระยะทางประมาณ 86 กม.)

ก่อนจะถึงทางแยกบ้านไร่ทาม จะสังเกตเห็นป้ายชี้บ่งแหล่งท่องเที่ยว (ถ้ำผายา, วนอุทยานภูผาล้อม, อ่างเก็บน้ำห้วยลิ้นควาย) และป้ายชี้บ่งป้ายน้ำมันบางจาก ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายมือที่ทางแยกด้านหน้า หรือบางท่านอาจจะแวะเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อความไม่ประมาทในเรื่องน้ำมันหมดกลางทาง เนื่องจากเส้นทางข้างหน้าจะไม่มีปั้มลักษณะแบบนี้แล้ว ซึ่งจะมีแต่ปั้มน้ำมันหลอดเท่านั้น


เมื่อเลี้ยวซ้ายมือที่ทางแยกบ้านไร่ทามแล้ว ให้เดินทางไปอีกประมาณ 9 กม. บนถนนสาย 2249 ซึ่งถนนสายดังกล่าวสามารถเดินทางไปสู่ อำเภอเชียงคาน (ระยะทางประมาณ 64 กม.) และอำเภอปากชม (ระยะทางประมาณ 78 กม.)


ระหว่างการเดินทางบนถนนสายดังกล่าว ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันร่มรื่นกับต้นไม้สักทองที่ปลูกไว้ตามข้างทางไปตลอดเส้นทาง


และระหว่างการเดินทางบนถนนสายดังกล่าว ท่านก็จะได้พบเห็นพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ซึ่งอาชีพหลักของเกษตรกรเมืองเลยจะเป็นการปลูกข้าวโพดขาย รองลงมาก็จะเป็นการทำนาข้าวเพื่อบริโภคเองเป็นส่วนใหญ่ และที่กำลังมาแรงมากๆ คือการปลูกยางพาราเพื่อขายน้ำยาง หรือทำเป็นแผ่นขาย ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกยางพารามากเป็นอันดับ 2 รองจากภาคใต้ และคุณภาพของน้ำยางพาราดีที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นจึงทำให้พื้นที่จังหวัดเลยเริ่มเขียวสดชื่นไปด้วยสวนยางพารา


ถนนแถบทุกเส้นทางของจังหวัดเลยจะเป็นเหมือนคลื่นน้ำทะเลขึ้น – ลง ไปตลอดเส้นทาง ตามคำขวัญของจังหวัดที่ว่า “เมืองแห่งทะเลภูเขา” การเดินทางควรขับรถอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ


เมื่อเดินทางไปประมาณ 9 กม. ก็จะถึงหมู่บ้านเพีย จะสังเกตเห็นป้ายชี้บ่งแหล่งท่องเที่ยว (ถ้ำผายา, วนอุทยานภูผาล้อม) ให้เตรียมตัวเลี้ยวขวามือที่ทางแยกด้านหน้า (ประมาณ 200 เมตร)


เมื่อถึงทางแยกหน้าวัดเลียบ ของหมู่บ้านเพีย ให้เลี้ยวขวามือ ซึ่งจะเป็นซอยขนาดเล็ก เพื่อมุ่งสู่ถ้ำผายา (ระยะทางประมาณ 10 กม.)


เป็นทางลาดยางตลอดเส้นทาง ซึ่งตลอดเส้นทางจะเป็นป่าเขาสูงใหญ่สวยสง่า และพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน


เมื่อเดินทางไปประมาณ 1 กม. จะมองเห็นทางแยกเข้าวนอุทยานภูผาล้อม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังพัฒนา โดยภายในเขตพื้นที่วนอุทยานภูผาล้อม จะเป็นผืนป่าดิบชื้นที่มีภูเขาสูงใหญ่หุ้มล้อมทุกด้าน การเดินทางเข้าไปด้วยทางรถประมาณ 2 กม. และทางเท้าขึ้นด้วยการเดินขึ้นบันไดข้ามภูเขาเพื่อเข้าสู่วนอุทยาน ซึ่งเราจะได้พบเห็นผืนป่าสีเขียวสดชื่นอันกว้างใหญ่ ที่มีหน้าผาสูงใหญ่หุ้มล้อมเหมือนกำแพงอย่างสวยสง่า และพื้นที่ดังกล่าวยังมีสำนักสงฆ์ของหมู่บ้านเพีย สำหรับปฏิบัติธรรมอยู่ด้วย ซึ่งสามารถแวะเข้าไปเที่ยวชมได้


เมื่อเดินทางตรงไปประมาณ 1 กม. จากทางแยกเข้าวนอุทยานภูผาล้อม เราจะพบเห็นทิวทัศน์ข้างทางบนภูเขาสูงอันสวยงดงาม ซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาสูงใหญ่และภูหอของอำเภอภูหลวงอย่างชัดเจน


เส้นทางอันเขียวสดชื่น ที่หุ้มล้อมด้วยป่าไม้อันเขียวขจี และภูเขาสูงใหญ่ตลอดเส้นทาง สร้างบรรยากาศชวนให้หลงใหลในการเดินทางยิ่งนัก


เมื่อเดินทางมาใกล้จะถึงทางเข้าหมู่บ้าน จะมองเห็นป้ายชี้บ่งทางเข้าถ้ำผาดำ (ด้านขวามือ) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ถ้ำผาดำสันติธรรม ของหมู่บ้านห้วยตาดอีกแห่งหนึ่ง โดยจะแยกขวามือเข้าไปประมาณ 1 กม. ซึ่งประวัติความเป็นมาสามารถเข้าไปดูได้ที่ ถ้ำผาดำสันติธรรม


เมื่อเดินทางตรงไปประมาณ 1 กม. จากทางแยกเข้าถ้ำผาดำ จะพบเห็นป้ายชี้บ่งทางเข้าหมู่บ้านใหม่สันติธรรม ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่แยกออกมาจากหมู่บ้านห้วยตาด และปัจจุบันหมู่บ้านห้วยตาดได้แยกออกเป็น 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านห้วยตาด หมู่ที่ 4, บ้านใหม่สันติธรรม หมู่ที่ 8 (ทิศใต้), บ้านโคกหินใต้ หมู่ที่ 9 (ทิศเหนือ) และบ้านห้วยตาดใต้ หมู่ที่ 17 (ทิศตะวันออก)


เมื่อเดินทางตรงไปประมาณ 1 กม. จากป้ายชี้บ่งทางเข้าหมู่บ้านใหม่สันติธรรม จะมองเห็นป้ายชี้บ่งทางเข้าถ้ำผายา (ด้านซ้ายมือ) โดยให้ท่านเลี้ยวซ้ายมือที่ทางแยกตรงป้ายชี้บ่ง แล้วตรงไปประมาณ 1 กม. ก็จะถึงจุดหมายในการเดินทางครั้งนี้


ระหว่างการเดินทางเข้าไปยังถ้ำผายานั้น ท่านสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามรอบหมู่บ้านทั้ง 4 หมู่ ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะภูเขาอันสูงใหญ่ และแปลงการเกษตรของชาวบ้านตลอดสองข้างทาง


เมื่อมองไปด้านหน้าก็จะพบหน้าผาสูงใหญ่ สวยสง่า ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “ผายา” และยังสามารถมองเห็นปากถ้ำขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ถ้ำผายา” ซึ่งเป็นประตูเข้า – ออกของค้างคาวนับล้านล้านตัว และเป็นจุดชมวิวรอบหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งประวัติความเป็นมาของถ้ำผายาสามารถเข้าไปดูได้ที่ ถ้ำผายาเทพนิมิตร


เวลาประมาณ 17.00 น. เราสามารถพบเห็นค้างคาวนับล้านล้านตัวบินออกจากปากถ้ำผายาเป็นแนวยาวติดต่อกัน เพื่อออกไปหากินตามที่ต่างๆ ซึ่งค้างคาวในถ้ำผายานี้จะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ ค้างคาวกินแมลง (ตัวขนาดเล็ก บินออกหากินระยะไกล มีจำนวนมาก) และค้างคาวกินผลไม้ (ตัวขนาดใหญ่ บินออกหากินใกล้ๆ ปากถ้ำ และรอบๆ หมู่บ้าน มีจำนวนน้อย) โดยเราสามารถชมค้างคาวบินออกหากินได้เป็นชั่วโมง และช่วงเวลากลางวัน เราสามารถเข้าไปดูค้างคาวภายในถ้ำได้ แต่ต้องมีผู้ชำนาญทางในถ้ำนี้เข้าไปด้วย เพื่อความปลอดภัยจากเหวลึก สัตว์มีพิษ และการเดินหลงทาง ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น